แนวข้อสอบ นักวิชาการคลังปฏิบัติการ ท้องถิ่น ฉบับใช้สอบ ปี 2567-2568
แนวข้อสอบ พรบ. ภาษีป้าย พ.ศ. 2510
1. พระราชบัญญัติภาษีป้าย มีผลใช้บังคับเมื่อใด
ก. 1 มกราคม 2510 ข. 1 มกราคม 2511
ค. 1 มีนาคม 2510 ง. 1 มีนาคม 2511
ตอบ ข. 1 มกราคม 2511
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2511 เป็นต้นไป
2. ใครเป็นผู้รักษาการตามบัญญัตินี้
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ค. อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ง. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ กับให้มีอำนาจ
ออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราภาษีป้ายไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในบัญชีอัตราภาษีป้ายท้ายพระราชบัญญัตินี้
และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
3. ข้อใดต่อไปนี้คือความหมายคำว่าป้าย
ก. ป้ายที่แสดงชื่อ ข. ป้ายแสดงยี่ห้อ
ค. ป้ายที่แสดงเครื่องหมาย ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 6 ในพระราชบัญญัตินี้
ป้าย หมายความว่า ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือประกอบ
กิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะได้แสดงหรือโฆษณาไว้ที่
วัตถุใดๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น
ราชการส่วนท้องถิ่น หมายความว่า เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัดกรุงเทพ
มหานคร เมืองพัทยา และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นราชการ
ส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัตินี้
เขตราชการส่วนท้องถิ่น หมายความว่า
(1) เขตเทศบาล
(2) เขตสุขาภิบาล
(3) เขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(4) เขตกรุงเทพมหานคร
(5) เขตเมืองพัทยา
(6) เขตองค์การปกครองท้องถิ่นอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นราชการส่วนท้องถิ่น
ผู้บริหารท้องถิ่น หมายความว่า
(1) นายกเทศมนตรี สำหรับในเขตเทศบาล
(2) ประธานกรรมการสุขาภิบาล สำหรับในเขตสุขาภิบาล
(3) ผู้ว่าราชการจังหวัด สำหรับในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(4) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร
(5) ปลัดเมืองพัทยา สำหรับในเขตเมืองพัทยา
(6) หัวหน้าผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การปกครองท้องถิ่นอื่นที่รัฐมนรีประกาศกำหนดให้เป็น
ราชการส่วนท้องถิ่น สำหรับในเขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
ปี หมายความว่า ปีปฏิทิน
รัฐมนตรี หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
4. ในพระราชบัญญัตินี้ ราชการส่วนท้องถิ่นคือ
ก. เทศบาล ข. องค์การบริหารส่วนจังหวัด
ค. กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
คำอธิบายดังข้อข้างต้น
5. ข้อใดต่อไปนี้คือผู้บริหารท้องถิ่น
ก. นายกเทศมนตรี สำหรับในเขตเทศบาล
ข. นายก อบจ. สำหรับในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
6. เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้ายสำหรับป้ายดังต่อไปนี้
ก. ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงมหรสพแบะบริเวณของโรงมหรสพนั้นเพื่อโฆษณามหรสพ
ข. ป้ายที่แสดงไว้ที่สินค้า หรือที่สิ่งหุ้มห่อหรือบรรจุสินค้า
ค. ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 8 เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้ายสำหรับป้ายดังต่อไปนี้
(1) ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงมหรสพแบะบริเวณของโรงมหรสพนั้นเพื่อโฆษณามหรสพ
(2) ป้ายที่แสดงไว้ที่สินค้า หรือที่สิ่งหุ้มห่อหรือบรรจุสินค้า
(3) ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
(4) ป้ายที่แสดงไว้ที่คน หรือสัตว์
(5) ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นหรือภายในอาคาร
ซึ่งเป็นที่รโหฐาน ทั้งนี้ เพื่อหารายได้ และแต่ละป้ายมีพื้นที่ไม่เกินที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ไม่รวมถึง
ป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์
(6) ป้ายของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค หรือราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วย
ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
(7) ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาลหรือตามกฎหมาย
ว่าด้วยการนั้นๆ และหน่วยงานที่นำรายได้ส่งรัฐ
(8) ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อ
การสหกรณ์ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
(9) ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่แสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนเอกชนหรือ
สถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้น
(10) ป้ายของผู้ประกอบการเกษตรซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตรของตน
(11) ป้ายของวัดหรือผู้ดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะ
(12) ป้ายของสมาคมหรือมูลนิธิ
(13) ป้ายตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
7. การส่งหนังสือแจ้งการประเมินให้ส่งในเวลาใด
ก. ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ลง หรือเวลาทำการของผู้รับ
ข. วันที่เจ้าพนักงานปฏิบัติราชการ
ค. กำหนดให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจในการส่ง
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ก. ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ลง หรือเวลาทำการของผู้รับ
มาตรา 11 การส่งคำสั่งเป็นหนังสือ หนังสือแจ้งการประเมิน หรือหนังสืออื่นให้แก่บุคคลใด
ให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) ให้ส่งในเวลากลางวันระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกหรือในเวลาทำการของผู้รับ
(2) ให้ส่ง ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการหรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ โดยจะส่งทางไปรษณีย์
ลงทะเบียนก็ได้
ถ้าไม่พบผู้รับ ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ ให้ส่งแก่ผู้บรรลุ
นิติภาวะแล้ว ซึ่งอยู่หรือทำงาน ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้นั้น
ถ้าไม่สามารถจะส่งตามวิธีดังกล่าวได้ ให้ปิดหนังสือนั้นไว้ในที่เห็นได้ง่าย ณ สถานการค้า
สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้นั้น หรือลงประกาศแจ้งความในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อย
สองฉบับ เมื่อได้ปฏิบัติตามวิธีนี้แล้ว และเวลาได้ล่วงพ้นไปไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน นับแต่วันที่ปฏิบัติการให้
ถือว่าบุคคลนั้นได้รับหนังสือนั้นแล้ว
8. กรณีคำสั่งโดยวิธีปิดหนังสือไว้ในที่เห็นได้ง่าย ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของ
ผู้อื่น ให้ถือว่าบุคคลนั้นได้รับหนังสือเมื่อล่วงพ้นไปแล้วกี่วันนับแต่วันปฏิบัติ
ก. 7 วัน ข. 10 วัน
ค. 15 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ก. 7 วัน
คำอธิบายดังข้อข้างต้น
9. ให้เจ้าของป้ายซึ่งจะต้องเสียภาษี ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายตามแบบในเดือนใดของปี
ก. มีนาคม ข. เมษายน
ค. พฤษภาคม ง. มิถุนายน
ตอบ ก. มีนาคม
มาตรา 12 ให้เจ้าของป้ายซึ่งจะต้องเสียภาษีป้าย ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายตามแบบและวิธีการ
ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ภายในเดือนมีนาคมของปี
ในกรณีที่เจ้าของป้ายอยู่นอกประเทศไทย ให้ตัวแทนหรือผู้แทนในประเทศไทยมีหน้าที่ยื่นแบบ
แสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้าย
10. ในกรณีที่เจ้าของป้ายเป็นผู้ไม่อยู่ให้บุคคลใดเป็นผู้ยื่น
ก. ผู้จัดการมรดก ข. ผู้ครอบครองทรัพย์
ค. ผู้จัดการทรัพย์สิน ง. ผู้พิทักษ์
ตอบ ข. ผู้ครอบครองทรัพย์
มาตรา 13 ถ้าเจ้าของป้ายตาย เป็นผู้ไม่อยู่ เป็นคนสาบสูญ เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเป็นคน
เสมือนไร้ความสามารถ ให้ผู้จัดการมรดก ผู้ครอบครองทรัพย์มรดกไม่ว่าจะเป็นทายาทหรือผู้อื่น ผู้จัดการ
ทรัพย์สิน ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา 12 แทนเจ้าของป้าย
แนวข้อสอบความรู้เกี่ยวกับการเงินและการงานคลัง
ให้ทำเครื่องหมาย ü ลงหน้าข้อที่เห็นว่าถูกต้องที่สุด
1. เงินของทางราชการ หมายถึง
ก. เงินรายได้แผ่นดิน ข. เงินงบประมาณรายจ่าย
ค. เงินนอกงบประมาณ ง. ถูกทั้งข้อ ก. ข. ค.
2. เงินของทางราชการแบ่งออกเป็นกี่ประเภท
ก. 2 ข. 3
ค. 4 ง. 5
3. รายจ่ายตามงบประมาณ จำแนกออกเป็น 2 ลักษณะคือ
ก. (1) รายจ่ายงบกลาง และ ข. (1) เงินรายได้แผ่นดิน และ
(2) รายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ (2) เงินนอกงบประมาณ
ค. (1) เงินรายได้แผ่นดิน และ ง. (1) เงินงบประมาณรายจ่าย และ
(2) เงินงบประมาณรายจ่าย (2) เงินนอกงบประมาณ
4. รายจ่ายงบกลาง ได้แก่
ก. เงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ ข. เงินช่วยเหลือข้าราชการและลูกจ้าง
ค. เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ง. ถูกทุกข้อ
5. ท่านเข้าใจหลักเกณฑ์การพิจารณาสิ่งของที่มีอายุการใช้ยืนนานว่าควรเป็นวัสดุอย่างไร
ก. สิ่งของที่ไม่มีกำหนดไว้ในบัญชี ตัวอย่าง สิ่งของที่เป็นครุภัณฑ์ และมีราคาหน่วยหนึ่ง
หรือซื้อครั้งหนึ่งไม่เกิน 5,000 บาท
ข. สิ่งของที่ไม่มีกำหนดไว้ในบัญชี ตัวอย่างส่งของที่เป็นครุภัณฑ์ และมีราคาเกิน 5,000 บาท ค. สิ่งของที่มีราคาเกินกว่า 1,000 บาท
ง. ที่กล่าวมาไม่มีข้อใดถูก
6. การจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี ส่วนราชการจะดำเนินการได้
ก. ตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ข. ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เกี่ยวกับการจ่ายเงินของแผ่นดิน
ค. ที่กล่าวมาถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
ง. ที่กล่าวมาไม่มีข้อใดถูก
7. เงินรายได้แผ่นดิน ประกอบด้วย
ก. รายได้จากภาษีอากร ข. รายได้จากการขายสิ่งของและบริการ
ค. รายได้จากรัฐพาณิชย์และรายได้อื่นๆ ง. ถูกทุกข้อ
8. ท่านเข้าใจหลักเกณฑ์การพิจารณาสิ่งของที่เป็นครุภัณฑ์อย่างไร
ก. สิ่งของที่มีกำหนดไว้ในบัญชีตัวอย่าง สิ่งของที่เป็นครุภัณฑ์ในหนังสือจำแนกประเภทรายจ่าย
ตามงบประมาณ ทั้งนี้ ไม่ว่าราคาสิ่งของนั้นจะมีราคามากน้อยเพียงใด
二. สิ่งของที่ไม่มีกำหนดไว้ในบัญชี ตัวอย่าง สิ่งของที่เป็นครุภัณฑ์และมีราคาเกิน 1,000 บาท
三. ที่กล่าวมาถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
四. ที่กล่าวมาไม่มีข้อใดถูก
9. จากคำถามข้อ 11 นั้น ถ้าการกระทำมีเจตนาทุจริต หรือเป็นเหตุให้ทางราชการเสียหายอย่างร้ายแรง
บุคคลผู้นั้นจะถูกลงโทษอย่างไร
ก. ให้ลงโทษอย่างต่ำให้ออกจากราชการ
ข. ให้ลงโทษอย่างต่ำปลดออกจากราชการ
ค. ให้ลงโทษอย่างต่ำตัดเงินเดือน
ง. ให้ลงโทษภาคทัณฑ์ หรือว่ากล่าวตักเตือน โดยทำเป็นลายลักษณ์อักษร
10. งานคลัง หมายถึง
ก. การดำเนินงานเกี่ยวกับการงบประมาณของส่วนราชการ
ข. การดำเนินงานเกี่ยวกับการเงินของส่วนราชการ
ค. การดำเนินงานเกี่ยวกับการบัญชีของส่วนราชการ
ง. ถูกทุกข้อ
ถาม – ตอบ การจัดทำ การวิเคราะห์ข้อมูล และการนำเสนอข้อมูล
**********************
1. ขั้นตอนในการวิเคราะห์ข้อมูล มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง
ตอบ 5 ขั้นตอน ได้แก่
1. การใช้แนวคิดทฤษฎีและการสร้างกรอบแนวคิดสำหรับการวิเคราะห์
2. การตรวจสอบข้อมูล
3. การจดบันทึกและการลงรหัสข้อมูล
4. การทำสรุปชั่วคราวและการลดข้อมูล
5. การสร้างข้อสรุปและการพิสูจน์ข้อสรุป
2. Ground theory คืออะไร
ตอบ Ground theory เป็นทฤษฎีหรือข้อสรุปที่สร้างขึ้นอย่างเป็นระบบจากข้อมูลรูปธรรมหรือเป็นจริงโดยตรงจาการวิจัย และได้มาในกระบวนการวิจัยนั้นเอง บางครั้งเรียกว่า generative theory, substantive theory
3. จงตัวอย่างแนวคิดทฤษฎีทางการวิจัยเชิงคุณภาพ
ตอบ แนวคิดการวิเคราะห์ชุมชน
แนวคิดการวิเคราะห์เครือข่ายสังคม
ทฤษฎีโครงสร้างการหน้าที่
4. การนำเสนอข้อมูลอย่างละเอียด โดยวิธีการพรรณนา เรียกว่าอะไร
ตอบ ชาติพันธุ์วรรณา (ethnography)
5. การตรวจข้อมูลแบบสามเส้า (triangulation) มีลักษณะเป็นอย่างไร
ตอบ การตรวจข้อมูลแบบสามเส้า (triangulation) เป็นการตรวจสอบเพื่อดูความครบถ้วนและคุณภาพของข้อมูล ว่าข้อมูลที่ได้เพียงพอและมีคุณภาพจะตอบปัญหาการวิจัยได้หรือไม่
6. การจดบันทึกและ ดัชนีข้อมูลหรือการลงรหัสข้อมูล ได้แก่อะไรบ้าง
ตอบ 1. การจดบันทึกข้อมูล(Note taking)
2.การบันทึกย่อและการบันทึกฉบับสมบูรณ์
3.แยกข้อมูลกับส่วนที่เป็นความคิดเห็นของผู้วิจัยออกจากกัน
7. การทำดัชนีข้อมูล (Indexing)หรือ การลงรหัส (Coding) คืออะไร
ตอบ คือ การเลือกคำบางคำมาใช้เพื่อจัดทำหมวดหมู่ข้อมูล
8. ดัชนีหรือรหัส มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ 3 ประเภท ได้แก่
1. ดัชนีเชิงบรรยาย (descriptive index) ได้แก่คำหรือข้อความที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการจัดหมวดหมู่ที่เป็นการบรรยายพรรณา เช่น เมื่อศึกษาโรงเรียน อาจมีดัชนีคำว่า การบริหารโรงเรียน ครู นักเรียน
2. ดัชนีเชิงตีความ(interpretive index) คำหรือข้อความที่มีความซับซ้อนขึ้นมากกว่าดัชนีเชิงบรรยาย เช่น ครูใหญ่ ครูน้อย
3. ดัชนีเชิงอธิบาย(explanatory index) คำหรือข้อความที่แสดงความเชื่อโยงหรือความสัมพันธ์ ตลอดจนคำอธิบายเหตุการณ์ เช่น ครูใหญ่ปกครองครูน้อย
9. จงอธิบายวิธีการทำดัชนีหรือการทำรหัส
ตอบ วิธีการทำดัชนีหรือการทำรหัส มีขั้นตอนดังนี้คือ
1. ทำดัชนีตั้งแต่ก่อนเริ่มเก็บข้อมูล โดยเขียนรายการคำหรือข้อความ จำนวนมาก ซึ่งมักได้จากกรอบแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวกับปัญหาการวิจัยนั้น
2. มีการปรับปรุงเมื่อมีการเก็บข้อมูลแล้วโดยใช้ทรรศนะของคนใน (emic) หรือคำที่คนในใช้(folk term)มาปรับปรุงดัชนี แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสมอไป
3. ปรับปรุงโดยเพิ่มเติม หรือตัดออกในบางคำหรือข้อความที่ไม่ได้ใช้ออก
4. เริ่มทำคำจำกัดความของดัชนีแต่ละตัวที่ใช้และตัดสินใจว่าจะใช้ชื่อดัชนีนั้นว่าอะไร เช่น ตำราเรียน หมายถึง ตำรา แบบฝึกหัด
5. ทำดัชนีในบันทึกภาคสนาม โดยการอ่านบันทึกแล้วเขียนดัชนีที่ตรงกับข้อความส่วนนั้นไว้ข้างหน้าหรือข้างหลัง
10. การทำสรุปชั่วคราว คืออะไร
ตอบ การทำสรุปชั่วคราว คือ การลองเขียนประโยค (statement) ซึ่งผู้วิจัยคาดว่า เป็นลักษณะหรือความเชื่อมโยงของข้อมูล ตัวอย่างประโยค
• ชาวบ้านรู้ประโยชน์อาหารห้าหมู่
• ผู้มีอาการป่วยจะงดของแสลง
• ครูไม่ได้สอนตามหลักสูตร